- 14 ม.ค. 2017 12:12:28 โดย มานพ กองอุ่น
- บทความ
- ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง เศรษฐกิจพอเพียง พระราชดำรัส ในหลวง
ปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง
การปลูกป่า 3 อย่างแต่ให้ประโยชน์ถึง 4 อย่าง เป็นปัจจัยพื้นฐานที่จะทำให้ชีวิตอยู่รอดได้ บางแห่งจะอธิบายเพื่อให้เข้าใจง่าย คือ หลัก 4 พอ คือ พอกิน พอใช้ พออยู่ และพอร่มเย็น แต่มีความหมายเดียวกันกับป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง โดยเริ่มจากพืชที่อยู่ในพื้นที่ก่อน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
การปลูกป่าไว้กิน (พอกิน)
เป็นการปลูกพืชที่สามารถกินได้โดยสามารถแบ่งเป็น ชั้นต่างๆ ดังต่อไปนี้
พืชผิวน้ำ เป็นพืชที่ขึ้นบนผิวน้ำ เช่น ผักบุ้ง ผักกระเฉด เป็นต้น พืชหัว เป็นพืชที่มีหัวเช่น ขิง ข่า ตระไคร้ มันต่างๆ เป็นต้น พืชหน้าดิน เป็นพืชผักที่สามารถปลูกบนหน้าดิน เช่น ผักต่างๆ พริก มะเขือ พืชชั้นกลาง เป็นพืชหรือไม้ผลที่อยู่ในระดับสูงขึ้นไป เช่น กล้วย มะม่วง มะขาม ทุเรียน เป็นต้นการปลูกป่าไว้ใช้ (พอใช้)
เป็นการปลูกป่าเพื่อประโยชน์ใช้สอย เช่น ทำรั้ว ทำฝืน เผาถ่าน เป็นต้น ไม้ที่ปลูกได้แก่ไม้โตไว 1-5 ปีเช่น สะเดา สะแกนา ขึ้เหล็ก อินทนิล กระถินเทพา ไผ่ เป็นต้น
การปลูกป่าไว้อยู่ (พออยู่)
เป็นการปลูกป่าเพื่อทำที่อยู่อาศัย เช่น บ้าน โรงเรือน คอกปศุสัตว์ เป็นต้น ไม้ที่ปลูกจะเป็นไม้ยืนต้น หรือไม้ที่อยู่สูงขึ้นไป ที่มีอายุ 10 – 20 ปีขึ้นไป จึงจะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ เช่น สัก ยางนา เป็นต้น
ประโยชน์อย่างที่ 4 คือ ระบบนิเวศน์ (พอร่มเย็น)
เป็นผลพลอยได้จากการปลูกป่าทั้ง 3 อย่าง ซึ่งจะให้ระบบนิเวศน์ที่ร่มเย็นสบายอุณหภูมิต่ำกว่าภายนอก 3-5 องศาเซลเซียส ทำให้รู้สึกโล่งเย็นสบาย
ดังนั้นการปลูกป่า 3 อย่าง ยังให้ประโยชน์ได้ถึง 4 อย่าง ซึ่งเป็นจุดพื้นฐานที่เราจะสามารถต่อยอดไปได้อีกมากมาย